คุณควรบอกทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวคุณ หากคุณละเลยแม้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่มีทางที่ผู้คัดใบสมัครจะมานั่งทำความเข้าใจคุณว่าเพราะเหตุใดคุณจึงไม่แจ้งข้อมูลในส่วนนี้ เป็นการง่ายและประหยัดเวลามากกว่าที่จะเข้าใจว่านั่นคือ ความสะเพร่าของคุณ ดังนั้นการกรอกข้อมูลง่ายๆให้ครบถ้วน ถือเป็นสิ่งง่ายๆ ที่ไม่ควรมองข้าม 2 สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายบุคคลต้องการทราบ คุณควรระบุลงไปให้ชัดเจน ไม่ควรกรอกว่าอะไรก็ได้ อย่างไรก็ได้ หรือมีตำแหน่งอะไรที่เห็นว่าเหมาะสมก็สามารถทำได้ เพราะจะแสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในตนเองของคุณ คุณควรเป็นผู้กำหนดงานที่คุณต้องการทำเองไม่ใช่หรือเพราะนั่นเป็นโอกาสแรกและโอกาสเดียวที่คุณจะเลือก และกำหนดได้ แต่หลังจากเข้าทำงานแล้วนั่นแหละ คุณจะได้ทำในทุกสิ่งที่บริษัทต้องการ
คุณควรระบุสาขาวิชา ชื่อสถาบัน และปีจบการศึกษาให้ชัดเจน ประวัติการทำงานก็เช่นกัน ข้อมูลทั้งสองส่วนนี้มีผลเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน และเป็นสาระสำคัญในการคัดกรองใบสมัคร คุณจึงไม่ควรพลาดในการให้ข้อมูลใดข้อมูลหนึ่ง ยิ่งคุณให้ข้อมูลได้ละเอียดมากเท่าไหร่ ผู้คัดใบสมัครก็ยิ่งรู้จักคุณมากขึ้นเท่านั้น และยิ่งหากคุณสามารถให้ข้อมูลละเอียดจนเห็นภาพว่าหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบในตำแหน่งงานที่ผ่านมาของคุณเป็นอย่างไร ก็คงไม่มีบริษัทไหนที่จะมองข้ามคุณ สิ่งเล็กๆ ที่สำคัญมาก ในการเพิ่มน้ำหนักให้กับใบสมัครของคุณ ปัจจุบันมีใบสมัครจำนวนไม่น้อยที่ใช้รูปถ่ายจากมือถือ หรือรูปแอ๊บแบ๊ว ซึ่งก็อาจจะเหมาะกับงานบางประเภท เช่น พริตตี้ หรือ PR เป็นต้น แต่สำหรับตำแหน่งงานโดยทั่วไปแล้วรูปถ่ายหน้าตรง ชัดเจน ไม่สวมแว่น และหมวกยังถือเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากรูปถ่ายนั้นบ่งบอกถึงความเป็นตัวคุณยิ่งกว่าคำบรรยายนับพัน ดังนั้นการเลือกรูปถ่ายสำหรับสมัครงานจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นๆ
สำหรับนิสิต นักศึกษาจบใหม่ หรือแม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วก็ตาม อย่ามองข้ามการให้ข้อมูลในส่วนนี้ เพราะคุณสามารถอธิบายความเป็นตัวตนของคุณให้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยกิจกรรมที่คุณทำ และหากความสามารถ กิจกรรม หรือความสนใจนั้น มีความเกี่ยวเนื่อง ส่งเสริมในตำแหน่งหน้าที่การงานที่คุณยื่นใบสมัคร เช่น หากคุณสมัครงาน PR กิจกรรมยามว่างของคุณคือ การติดตามข่าวสาร สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ช้อปปิ้ง และแต่งตัว นั่นถือเป็นกิจกรรมที่ชาว PR ไม่ควรพลาด และก็ทำให้คุณก็เข้าตา HR ไปเต็มๆ